Welcome To A-Math_BM's Blog :-)

เทคนิคการเล่นท้ายเกม

    

     เทคนิคการเล่นท้ายเกม เป็นเทคนิคสำคัญที่อาจเป็นตัวแปรเปลี่ยนขั้วเกมทั้งเกมได้ ถือว่าการเล่นท้ายเกมนี้ รูปแบบนั้นก็ไม่ได้มีมากมายอะไำร แต่เทคนิคแต่ละคนก็มีแนวทางการเล่นที่แตกต่างกันไปแล้วแต่ว่าใครจะตัดสินใจแบบใดในการเล่น
     สำหรับผมนี้อยากจะแนะนำ เป็นเทคนิคเล็กๆ น้อยๆ แต่อาจจะมีประโยชน์นะครับ เราลองไปดูถึงเทคนิคต่างๆกันก่อนละกันนะครับ


เทคนิคท้ายเกม หรือใกล้จบเกม

     1.การเช็คเบี้ย : ปฏิเสธไม่ได้เลยครับว่าการเช็คเบี้ยนั้นจะไม่มีความสำคัญ
                            กับช่วงท้ายเกม เพราะการเ้ช็คเบี้ยนี้จะทำให้เราสามารถรู้เบี้ย
                            ของคู่ต่อสู้ได้ทั้ง 8 ตัวหรืออาจะรู้เบี้ย ประมาณ 8 - 12 ตัว
                            ที่เหลือ ทำให้เราวางแผนได้ว่าคู่ต่อสู้น่าจะเล่นแบบใด และ
                            เราควรมีวิธีการเล่นแบบใดที่จะเป็นหนทางที่ดีที่สุดในการเล่น
                            ในช่วงท้ายเกมนี้แต่ข้อเสียของการเช็คเบี้ย หรือข้อผิดพลาด
                            ของนักเอแม็ทที่เพิ่งจะหัดเล่นนั้นคือ เช็คเบี้ยพลาด ทำให้
                            ในเกมต่อๆไปจะไม่อยากเช็คอีก และอาจเห็นว่าเช็คไปก็ไม่ได้
                            ประโยชน์ทำให้เราชนะเลย แต่สำหรับนักเอแม็ทมืออาชีพแล้ว
                            การเช็คเบี้ย อาจเป็นหัวใจสำคัญของนักกีฬาเอแม็ทหลายๆคน
                            ซึ่งอย่างที่กล่าวมานะครับว่าการเช็คเบี้ยพลาดนั้นเกิดขึ้นได้
                            แม้กับผม ซึ่งเล่นเอแม็ทมาค่อนข้างนาน ก็ยังตัดเบี้ยพลาดเลย
                            แนะนำให้ฝึกตัดเบี้ยบ่อยๆ จนชิน และพยายามมีสมาธิ รอบคอบ
                            จากนั้นเราค่้อยนำสิ่งต่างๆที่เราได้ มาวิเคราะห์ในการเล่นต่อไป

     2.ใจดี          : ขอเรียกเทคนิคนี้ว่าเทคนิคใจดีละกันนะครับ ฟังดูแล้วเหมือน
                            ไร้สาระนะครับ แต่นี่ละครับสุดยอดเทคนิคที่นักเอแม็ทระดับ
                            ประเทศใช้กันมากมาย เทคนิคที่กล่าวมาคือ การเหลือเบี้ยไว้ในถุง
                            อย่างน้อย 1 ตัว (ถ้าเหลือไม่ได้ พยายามให้เหลือเป็นจำนวนคี่)
                            เมื่อเรามีโอกาสลงช่วงท้ายเกม โดยการเล่นเพื่อเหลือเบี้ยนี้ก็ต้อง
                            ดูความเหมาะสมด้วยว่า เราสมควรจะลงไหม เบี้ยในถุงน่าเหลือดีไหม
                            ซึ่งผลของการใช้เทคนิคนี้ จะทำให้คู่แข่งคิดหนักพอสมควร เพราะถ้า
                            คู่ต่อสู้ตาม คู่ต่อสู้ก็ต้องลง ซึ่งอาจจะบิงโกได้ หรือบิงโกไม่ได้ ซึ่งถ้า
                            คู่ต่อสู้บิงโก แล้วเหลือเบี้ยในถุงเพียง 1 ตัว คู่ต่อสู้ก็จะเล่นไม่ได้ทันที
                            (ยกเว้นได้เบี้ย ที่สามารถต่อได้ 1 ตัว ซึ่งมีโอกาสต่ำมาก) แต่หากบิง
                            โกไม่ได้ แล้วลง คู่ต่อสู้ก็จะได้รับเบี้ย 1 ตัวที่เหลือ ทำให้ตาถัดไปคู่
                            ต่อสู้ก็จะลงบิงโกไม่ได้ หรือหากคู่ต่อสู้นำ แล้วคู่ต่อสู้ข้าม เราอาจได้
                            โอกาสบิงโก หรือถ้านำแล้วลงทิ้งห่่าง เราอาจต้องมาวางแผนลงอีกที
                            เช่น กรณีคู่ต่อสู้วางแผนลงปิดที่เรา แต่เบี้ยที่เหลือ 1-2 ตัวทำให้คู่ต่อสู้
                            วางแผนพลาด เราก็อาจพลิกเกมได้ เป็นเทคนิคที่สำคัญมากๆเลยครับ
                            เทคนิคนี้ อาศัยเทคนิคข้อที่ 1 อย่างมากๆเลยนะครับ

     3.ลงปิดเกม : ตรงนี้ขอให้กาดอกจันทร์ไว้เลยครับว่ามีความสำคัญมากๆ โดยเฉพาะ
                            การลงบิงโก แล้วปิดเกมด้วย คำว่าปิดเกม ในที่นี้หมายถึง การลงหมด
                            แร็คซึ่งในถุงเบี้ยหมดแล้ว แน่นอนครับ คุณจะได้คะแนนเบี้ยของคู่ต่อสู้
                            สองเท่าอย่างสบายๆ ไม่ว่าบิงโกหรือไม่บิงโก การปิดเกมก็เป็นจุด
                            เปลี่ยนที่สำคัญมากๆและมองข้ามไม่ได้ ตัวอย่างที่ผมภูมิใจกับการปิด
                            เกมที่สุดคือ เกมสุดท้ายของงานภาคอีสาน ถ้าผมชนะผมเข้าชิง
                            ถ้าแพ้ ผมก็ร่วงตอนนั้นผมตามถึง 140 คะแนน แต่ผมสามารถคิด
                            บิงโกปิืดได้คะแนน 100 ต้นๆแต่เบี้ยคู่ต่อสู้นั้นคูณสองแล้วบวกให้ผม
                            ถึง 30 กว่าๆ ทำให้ผมเบียดแพ้เพียง 2 คะแนน ถึงจะไม่ชนะ แต่ผม
                            ก็อยากให้เห็นว่า ลงปิดเกม ทำให้คนที่ตาม 150 กลับมาเกือบเสมอ
                            ได้ แต่ส่วนใหญ่ถ้าบิงโกปิดเกมเนี่ย มี 3 แบบครับคือ นำแล้ว นำห่าง
                            ตามแล้่ว พลิกมาชนะ หรือไม่ก็ ตามแล้ว ไล่มาแพ้นิดเดียว (แบบผม)
                            สำหรับเทคนิคข้อนี้ อาศัยเทคนิคข้อ 1 และ 2 รวมกันในการช่วย
                            ให้เทคนิคนี้ประสบความสำเร็จในการใช้นะครับ อาจจะยากหน่อย

     4.การหยอด   : การหยอดเป็นเทคนิคที่แตกแขนงออกมาจากเทคนิคข้อที่ 3 ซึ่ง
                            ส่วนใหญ่ การหยอดจะทำให้เราลงหมดได้ใน 2-3 เทิร์นโดยใช้
                            ทีละ 1-3 ตัวในการเล่น ซึ่งบางทีการเล่นแบบนี้จะทำให้เราแซง
                            ชนะได้ไม่มาก เป็นการใช้จิตวิทยาทำลายกำลังใจคู่ต่อสู้ได้ในระดับ
                            หนึ่ง (โดยเฉพาะรอบชิงชนะเลิศ ซึ่งคิดว่าชนะแล้ว แต่กลับโดนแซง)
                            ผมแนะนำว่า การหยอดนี้ ควรจะรอบคอบและระวังมากๆในการเล่น
                            ถ้าไม่มั่นใจ ด้วยเวลาหรือฝีมือ ซึ่งหยอดแล้วจากที่คู่ต่อสู้ลงไม่ได้
                            กลับมาเป็นลงได้ ก็อย่าหยอดเลยครับ ถ้าเสี่ยงก็ไม่คุ้มแน่ๆ ส่วนใหญ่
                            การหยอดนี้มักจะเล่นคูณสอง คูณสาม ส่วนใหญ่จะเป็นระบบสมการ 0
                            เช่น +0 ... +0x7 ... +0x78 ... +0x784 ซึ่งจากที่ลง 1 ตาทีเดียว
                            แต่กลับได้ึะแนนเพิ่มถึง 3 เท่า ซึ่งในกรณีนี้ก็คือคู่ต่อสู้เหลือเบี้ย 1 ตัว
                            ซึ่งเป็นเบี้ย 2 หลัก หรือเบี้ยไม่ดี รวมถึงเหลือเบี้ยเต็มแรค แต่ทำอะไร
                            ไม่ได้ เราอาจจะหยอด +0 ... x1 ... /1 ... =n ในส่วนของการหยอด
                            ก่อนเราจะหยอดนี้อย่าลืิมนึกถึงเทิร์นต่อๆไปด้วยนะครับว่าเราเล่นต่อ
                            ได้หรือไม่ และหากเราหยอดแล้วเราลงหมด ก็จะได้คะแนนจากเบี้ย
                            คู่ต่อสู้ถึงสองเท่าอีก ถือว่าไม่เลวเลยใช่ไหมล่ะครับ

     5.อย่าพลาด : ตรงนี้สำคัญมากครับ เป็นหัวใจของทั้ง 4 เทคนิคข้างต้นเลย คุณ
                            ไม่มีโอกาสพลาดอีกแล้วตอนท้ายเกม หากกลางเกมคุณรู้ตัวว่าพลาด
                            มาแล้ว (เช่น ได้คูณสี่ แต่ลงคูณสาม หรือมารู้ทีหลังว่าบิงโกแต่ลง
                            ระบายเบี้ยไป) ตอนนี้ เพียง 1 คะแนนก็สามารถพลิกให้ชนะเป็นแพ้
                            แพ้เป็นชนะได้ โดยเฉพาะกรณีที่พบบ่อยมากคือ มีเบี้ยแบบเดียวกับ
                            คู่ต่อสู้ หรือลงที่เดียวกับคู่ต่ิอสู้ได้ เราก็ต้องลงเพื่อตัดบทคู่ต่อสู้ก่อน
                            ที่คู่ต่อสู้จะลง (แต่บางกรณี เราก็อาจจะเลือกลงที่ของเราหากคะแนน
                            ที่เราลงได้ 50-100 แต่คู่ต่อสู้ได้ 10-20 เราก็ปล่อยเขาไปเถอะไม่ต้อง
                            ไปแย่งคู่ต่อสู้) ส่วนใหญ่แล้วการพลาดมักจะเป็นการถูกบีบจากเวลา
                            สถานการณ์ที่ตาม รวมถึงสภาพแวดล้อมที่มีคนมามุงดูกัน การเสีย
                            สมาธิ ต่างๆ นานามากมาย ผมก็ยอมรับครับว่าผมก็เป็นอีกคนหนึ่ง
                            ที่สะเพร่า เล่นพลาดบ่อยๆในท้ายเกม วิธีแก้ไขก็ต้องฝึกคิดฝึกวาง
                            แผนในช่วงท้ายเกมแหละครับเป็นวิธีที่ดีที่สุด ฝึกเล่นบ่ิอยๆ แล้วจะ
                            เล่นได้ดีขึ้นตามลำดับเอง

     6.เวลา        :  เป็นปัจจัยที่คุมทั้ง 5 เทคนิคข้างต้น ซึ่งการที่มีเวลามาก - น้อยต่างกัน
                            อาจเป็นสิ่งหนึ่งที่จะเปลี่ยนเกมให้ชนะแพ้นั้นพลิกกัีนได้ เวลาในท้าย
                            เกมควรจะบริหารดีๆ และรอบคอบอย่าลุกรี้ลุกรน ไม่ต้องใจร้อนหรือ
                            ประหม่า เล่นแบบปกติแม้เวลาจะเหลือน้อย เพราะการที่เรารีบจะ
                            ทำให้เราพลาดถ้าหากเวลาเราติดลบ 10 แต่เราลงได้ 80 มันก็อาจ
                            จะคุ้มกว่าที่เราลง20 คะแนนแล้วมารู้ทีหลังว่า ลงพลาด เรื่องของ
                            เวลาและสภาพจิตใจ สมาธิ สตินี้ขึ้นอยู่กับประสบการณ์และการ
                            ฝึกฝนล้วนๆครับ ไม่มีการท่องไม่มีสูตรอะไร ผมเคยเห็นนักเอแม็ท
                            คนซ้ายในรูปข้างบนหน้าเว็บนี้ (พี่เสถียรพงษ์ หรือพี่อู๊ดนั่นเอง)
                            เหลือเวลาเพียง 6 วินาทีตอนท้ายเกม เมื่อคู่ต่อสู้กดเวลาปั๊ป
                            พี่อู๊ดก็จับเบี้ย 4 ตัววางลงสมการต่อหน้าต่อหลังและขานคะแนน
                            ทันทีทันใดพร้อมกับกดนาฬิกาเพื่อหยุดเวลา เวลาพี่อู๊ดเหลือเพียง
                            3 วินาที ซึ่งพี่อู๊ดนั้นใช้เวลาเพียง 3 วินาทีในการเล่นตานั้น แสดงให้
                            เห็นว่า การบริหารเวลาของพี่อู๊ดระหว่างรอคู่ต่อสู้คิดเลขนั้น พี่อู๊ดก็
                            คงวานแผนแหละคิดว่าคู่ต่อสู้ลงปิดพี่อู๊ดไม่ได้ และนับแต้มรอไว้เลย
                            พอถึงตาพี่อู๊ดก็วางเบี้ย ขานแต้ม กดเวลาเป็นอันเสร็จ สมแล้วครับ
                            ที่พี่อู๊ดเป็นนักเอแม็ท Top 10 ตลอดกาลอีกคนของวงการเอแม็ท

**************************************************



     ที่ได้เล่ากล่าวกันทั้ง 6 ข้อนี้เป็นเทคนิคที่ผมเห็นว่าอาจจะมีประโยชน์บ้างไม่มากก็น้อยล่ะครับ เพราะเป็นเทคนิคส่วนตัวและส่วนใหญ่ในบางข้อนี้หลายคนก็กำลังใช้อยู่ด้วย ซึ่งตามหลักความเป็นจริงแล้ว นักกีฬาเอแม็ทแต่ละคนก็ไม่ได้มีเทคนิคเหมือนกันหมด หรือใช้ทุกสถานการณ์แบบเดียวกันหมด แต่ที่ผมจะกล่าวต่อไปนี้คือสิ่งที่เกี่ยวกับการตัดสินใจในการเล่นท้ายเกมจากสถานการณ์ต่างๆ หรือที่เรียกกันอย่างติดปากว่า "การคุมเกม" นั่นเองครับ
     ผมเคยเขียนไว้ตอนผมอยู่ ม.2 ในหนังสือเอแม็ทส่วนตัวของผมเกี่ยวกับการคุมเกมไว้ว่า " การคุมเกม และการแก้เกม เป็นการเล่นที่มีประสิทธิภาพเกือบ 100% สำหรับผู้ที่ตาม 150 คะแนนยังสามารถพลิกได้ "  
     คำจำกัดความข้างต้นนี้เป็นคำที่ผมเคยเขียนไว้นานมากแล้ว ด้วยวุฒิภาวะในวัยนั้นอาจจะเป็นสิ่งที่ข้อความคำจำกัดความของผมยังเรียบเรียงไม่ค่อยดีเท่าไร แต่ถ้าถามว่าข้อความข้างต้นนี้ เป็นจริงไหม คำตอบก็คือจริงนะครับ
     ถ้าเป็นตอนนี้ ผมอยากจะให้คำจำกัดความของคำว่าคุมเกมว่า " การคุมเกม หมายถึง การวิเคราะห์และวางแผนท้ายเกม เพื่อให้ได้มาซึ่งชัยชนะ หรือผลการแข่งที่ดีที่สุดจากสถานการณ์ใกล้จะจบเกม ซึ่งการคุมเกมนี้ หากเราสามารถทำได้ โดยต้องเล่นไม่พลาด จะทำให้เรามีความได้เปรียบเหนือกว่าคู่ต่อสู้ " ไม่ทราบว่าหลายๆคนจะคิดแบบผมไหม แต่ผมคิดว่าความหมายของคำว่าคุมเกมควรจะเป็นแบบนี้แหละครับ
     สำหรับเนื้อหาในส่วนของการคุมเกมนี้ ผมขอยึดจากข้อมูลตั้งแต่ ม.2 แล้วกันนะครับ เพราะผมเห็นว่าข้อมูลก็ตรงกับปัจจุบันความจริงมาก แต่อาจจะมีการปรับแปลงเนื้อหานิดหน่อย ซึ่งแน่นอนครับว่าข้อมูลชุดนี้ ไม่เคยเปิดเผยที่ไหนมาก่อนเช่นเดียวกับหัวข้ออื่นๆ

เทคนิคการคุมเกม และการแก้เกม

     1.การคุมเท่ากับ (=) : การคุมเท่ากับ หมายความว่าเรามีเท่ากับเหลืออยู่อย่างน้อย
                                       1 ตัว และทั้งคู่ต่อสู้และในถุงเบี้ยนั้นไม่มีแล้ว การคุมลักษณะ
                                       เช่นนี้จะพบได้ค่อนข้างบ่อยมาก เรามักจะได้ยินกันบ่อยๆว่า 
                                      "อมเท่ากับ" (หมายถึงการเก็บเท่ากับส่วนใหญ่หรือทั้งหมดไว้
                                       เพียงผู้เล่นเดียว) การที่เรามีเท่ากับเพียงฝ่ายเดียวทั้งหมดช่วง
                                       ท้ายเกมจะถือว่าได้เปรียบพอสมควร โดยเฉพาะเวลาที่เรานำ
                                       จะทำให้คู่ต่อสู้บิงโกไม่ได้ตามอำเภอใจ (ยิ่งเวลาที่คู่ต่อสู้ไม่มี
                                       แบลงค์แล้ว คู่ต่อสู้จะทำอะไรลำบากมาก) หากเราเจอสถาน-
                                       การณ์แบบนี้ ก่อนอื่นให้เราปิดเท่ากับ โดยการระบายเท่ากับ
                                       ไปในตัวด้วยจะดีมาก (แต่ต้องระบายแล้ว คู่ต่อสู้ใช้เท่ากับตัว
                                       ที่เราลงระบายไปไม่ได้ด้วยนะ)
            จะรู้ได้อย่างไร :  วิธีการดูว่าคู่ต่อสู้นั้นอมเท่ากับไว้คนเดียวหรือไม่ หรือมีเท่ากับ
                                        หรือไม่ในกรณีที่เหลือเท่ากับตัวเดียวในถุง หรือเหลือสองตัว
                                        แล้วเรามีอยู่ตัวหนึ่ง ให้ดูจากการเปลี่ยนเบี้ย และการลงสมการ
                                       ในกระดานเอานะครับ ส่วนใหญ่การเปลี่ยนเบี้ยจะเดาได้ยาก
                                        กว่าแต่ในหลักความเป็นจริงแล้ว ถ้าคิดถึงตัวเรา แล้วเราไม่มี
                                       เท่ากับ เราก็ต้องเปลี่ยนเยอะๆ ใช่ไหมครับ แสดงว่าหากคู่ต่อสู้
                                       เปลี่ยนเบี้ยจำนวนมากๆ เช่น 5 ตัวขึ้นไป ให้เดาไว้เลยครับว่า
                                       คู่ต่อสู้ไม่มีเท่ากับอยู่ ณ เทิร์นนั้น (แต่หลังจากเปลี่ยนแล้ว
                                       มีหรือไม่นั้นไม่รู้) หรือบางครั้งบางทีการเปลี่ยนเยอะๆนี่ก็อาจ
                                       จะหมายถึง การเก็บเบี้ยเท่ากับกับเบี้ยดีๆไว้ เช่นเครื่องหมาย
                                       แบลงค์ หรือ 0 แล้วเปลี่ยนเบี้ยที่ยังไม่ดีออกไปหมดก็ได้
                                       อาจจะมองยากหน่อยแต่ถ้าเล่นบ่อยๆ สัญชาตญาณจะบอก
                                       เราเองครับว่าคู่แข่งมีหรือไม่

      2.การคุมเครื่องหมาย : การคุมเครื่องหมาย เป็นอีกสถานการณ์รูปแบบหนึ่งซึ่งพบ
                                       ได้บ่อยมาก การคุมเครื่องหมายไม่ได้หมายความว่าเราจะต้อง
                                       มีเครื่องหมายฝ่ายเดียว แต่คู่ต่ิอสู้อาจมีด้วย แต่ไม่เพียงพอจะ
                                       ทำบิงโกหรือเล่นในตำแหน่งที่จะเก็บคะแนนช่วงท้ายเกมได้
                                       สะดวกเท่าไร การเล่นคุมเครื่องหมาย เราต้องรู้ก่อนว่าในถุง
                                       เหลือเบี้ยที่ไม่เพียงพอที่คู่ต่อสู้จะเล่นได้ดี เราก็อาจจะลงเพื่อ
                                       ระบายตัวเลขไปเรื่อยๆในช่วงท้ายเกม (เพราะเรารู้ว่า ถ้าเรา
                                       ลงตัวเลขไป ยังไงๆก็ได้ตัวเลขคืนมา เพราะเรามีเครื่องหมาย
                                       อยู่ในมือค่อนข้างดีและในถุงก็อาจไม่เหลือแล้ว) ซึ่งเมื่อเบี้ย
                                       หมด เราก็หาจังหวะปิดเกมโดยบิงโก ทำแต้มหนักตอนท้าย
                                       หากเราเจอสถานการณ์โดนคู่ต่อสู้เก็บเครื่องหมายไว้หมด
                                       ให้เราพยายามหาช่องเครื่องหมายเพื่อลงทิ้งเบี้ยหนักๆก่อน
                                       อาจจะเป็นช่องว่างที่ลงเพียงเบี้ยตัวเลข 3 ตัวก็ได้คะแนนเยอะ
                                       (เช่น _ + _ x _ = _ ซึ่งเราสามารถเติมเลขได้ถึง 4 ตัวในนี้)
                                       หรือถ้ารู้แล้วว่าโอกาสจับเครื่องหมายแทบไม่มี ก็เปลี่ยนเบี้ย
                                       หนักไปให้คู่ต่อสู้ เพราะเก็บไว้ที่เรายังไงๆก็เล่นไม่ได้อยู่ดี
           จะรู้ได้อย่างไร : การที่จะรู้ว่าคู่ต่อสู้นั้นมีเบี้ยเครื่องหมายเก็บไว้กับตัวเองทั้งหมด
                                       หรือเก็บไว้ส่วนใหญ่หรือไม่ (เช่น เช็คเบี้ยแล้วเห็นในถุงมี 4 ตัว
                                       คู่ต่อสู้อาจมี 3 ตัว เป็นต้น) เราจะสังเกตได้จากการลงคู่ต่อสู้
                                       ซึ่งจะคู่ต่อสู้จะลงปิดเครื่องหมาย หรือลงบริเวณที่เราลงได้
                                       (เพราะคู่ต่อสู้รู้ว่าเราไม่มีเครื่องหมาย) ถึงตอนนั้นเราก็เตรียม
                                       ตัวที่จะวางแผนเก็บเบี้ยซ้ำ เบี้ยเล่นง่ายๆ เลขโดด เท่ากับ
                                       ไว้รอได้เลย เมื่อคู่ต่อสู้บิงโกมา หรือเปิดเครื่องหมายมา
                                        เราก็อาจจะบิงโก หรือได้ใช้เครื่องหมายจากคู่ต่อสู้ในการ
                                       สวนกลับได้ไม่ยาก (บางทีเบี้ยเลขโดด 7 ตัวก็อาจบิงโกได้
                                       ด้วยสมการหลักร้อยต่างๆ จริงไหมครับ)

     3.การคุมตัวเลข  :   การคุมตัวเลขนั้นเราจะไม่ค่อยพบกันบ่อยหรอกครับ เว้นเสียแต่
                                      ท้ายเกมเหลือเครื่องหมายเยอะจริงๆ ซึ่งแน่นอนว่าสถานการณ์
                                      ระหว่างมีแต่เครื่องหมาย กับมีแต่ตัวเลข หรือมีตัวเลขกับเครื่อง
                                      หมายแบบเหมาะสมนั้น แบบที่สองน่าจะเล่นง่ายกว่า ล่าสุดนี้
                                      BM ก็เจอมากับตัวเองเลยคือ เรามีเบี้ยพอเล่นได้ แบบสบายๆ
                                      แต่คู่ต่อสู้มีเลข 2 ตัวคือ 8 และ 17 นอกนั้นเป็นเครื่องหมาย
                                      ซึ่งไม่สามารถเล่นบนกระดานได้ BM จึงคุมเลข ไม่ลงเลข 8
                                      เพื่อให้โอกาสคู่ต่อสู้ลง +8-8 หรือ x8/8  นี่แหละครับประโยชน์
                                      ของการคุมตัวเลขท้ายเกม หากเราเจอสถานการณ์แบบนี้ คือ
                                      เรามีแต่เครื่องหมาย แต่ถ้าเปลี่ยนเครื่องหมายไปก็อาจทำให้
                                      คู่ต่อสู้บิงโก แนะนำว่าลองเปลี่ยนสัก 1-2 ตัวออกไป ให้เราพอ
                                      เล่นได้ (เพราะเปลี่ยนไป ได้เลขกลับมาแน่นอน) จากนั้นค่อยๆ
                                      ลงอย่างระมัดระวัง (ไม่แนะนำให้บิงโก เพราะบิงแล้วในถุงมี
                                      แต่ตัวเลข หรืออาจทำให้คู่ต่อสู้มีสิทธิ์หยอดไล่คะแนนมา)
         จะรู้ได้อย่างไร :  วิธีการดูว่าคู่ต่อสู้มีแต่เครื่องหมาย (ซึ่งเบี้ยอาจเหลือน้อย
                                      กว่า 5 ตัวแล้ว ทำให้เปลี่ยนไม่ได้) ก็ให้เราลงอย่างระมัดระวัง
                                      สิ่งแรกเลยคือ ลงปิดที่ทำคะแนนก่อน ซึ่งหากเครื่องหมายมาก
                                      ตำแหน่งยอดฮิตก็คือบริเวณสมการ 0 (ซึ่งสามารถทิ้งเครื่อง
                                      หมายได้อย่างน้อยถึง 2 ตัวและทิ้งเลขเพียง 1 นั่นคือทิ้งเลข 1
                                      มีโอกาสได้ตัวเลขคืนถึง 3 ตัวมาเล่นตา่ต่อไป ด้วยสมการ
                                      - [ตัวเลข] x ... 0) เมื่อเราลงปิดตรงนี้แล้ว ก็ให้ระวังทั้งกระดาน
                                      ในส่วนที่เป็นสมการคู่ขนาน ที่เป็นช่องเว้นช่องของตัวเลข
                                       (เช่น  9 _ 7 _ 2 ซึ่งเราใส่ - และ = หรือ + และ = ระบายได้)
                                      ซึ่งเราเพียงเติมเครื่องหมาย ตัวเลข 1 ตัว และ = ก็อาจเป็น
                                      คะแนนได้เช่นกัน ต้องวางแผนเช็คเบี้ยคู่ต่อสู้ให้รอบคอบ
                                      ก่อนที่จะลงเพื่อปิดกั้น และอย่าลืมสิ่งสำคัญคือ ปิดเท่าที่
                                      ปิดได้ แต่ไม่ใช่ปิด จนตัวเองเล่นไม่ได้ นี่ถือว่าไม่ดีเลยครับ


 รูปที่ 1 : ประกอบเทคนิคที่ 2 และ 3 สังเกตว่า BM มีเบี้ยตามรูป
และ BM สามารถลงได้หลายที่ เช่น 87-0=10+77=16+71


รูปที่ 2 : ประกอบเทคนิคที่ 2 และ 3 BM ใช้เบี้ยเลขทั้งหมด 6 ตัว
ลงไประหว่างช่องว่างเครื่องหมาย ได้ไป 43 คะแนน
และอีกทั้งยังเป็นการเก็บเครื่องหมาย เผื่ิอจับได้เลข และยังปิด
ที่ทำคะแนน x2 ทั้งฝั่งบน และฝั่งล่าง

     4.การคุมกระดาน : การคุมกระดาน เป็นอีกเทคนิคหนึ่งที่นักกีฬาเอแม็ทหลายคน
                                     ใช้ขณะเวลาตัวเองกำลังมีคะแนนนำคู่ต่อสู้พอสมควร หรือทิ้ง
                                      ห่างเยอะๆ กล่าวคือการพยายามลงอยู่วงในของกระดาน ไม่
                                      พยายามลง x3 หรือเปิด x9 (การลง x2 หลายบิงโกจะทำให้
                                      กระดานปิดเองโดยอัตโนมัติ) ซึ่งคู่ต่อสู้จะไม่เหลือพื้นที่ในการ
                                      เล่นตำแหน่งแต้มหนักๆ (เช่นตัวอย่างรูปด้านบน ถือเป็นเกมปิด)
                                      หากเจอสถานการณ์แบบนี้ทั้งที่เรากำลังตาม ให้พยายามหา
                                      ตำแหน่งบิงโกให้ได้ และลงอย่างรอบคอบ อย่าเล่นแบบรน
                                      เพราะบางคนตามอยู่ 50 แล้วเจอแบบนี้ก็เปิด x9 โดยไม่ได้
                                      ดูเบี้ยคู่ต่อสู้เลย ทำให้โดน x9 หนีห่างไปอีก ทั้งที่ความจริง
                                      50 คะแนนบางทีลงง่ายๆ แบบรูปด้านบน คะแนนก็เกือบ 50

     5.การคุมเวลา  :     การคุมเวลา เป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดสำหรับในรุ่นโอเพ่น ซึ่งมีเวลา
                                    จำกัดเพียงฝ่ายละ 22 นาที การลงกดดันคู่ต่อสู้ ให้คู่ต่ิอสู้ใช้เวลา
                                    นาน จนเวลาติดลบ ได้คะแนนพิเศษมาก็ได้ ซึ่งเวลานี้เป็นปัจจัย
                                    สำคัญซึ่งเกิดจากความชำนาญและความเร็วในการคำนวณต่างๆ
                                    เพราะฉะนั้นนักกีฬาที่จะได้เปรียบ ก็คือผู้ที่หมั่นฝึกซ้อมนั่นเอง

     สำหรับตัวอย่างที่กล่าวมา เทคนิคการคุมเกมนี้ เป็นรายละเอียดของหนังสือเอแม็ทส่วนตัวตอน ม.2 และเพิ่มเติมบางอย่างในปัจจุบัน ซึ่งอยากบอกก่อนนะครับว่าเป็นเทคนิคส่วนตัวของ BM แต่ก็มีนักกีฬาเอแม็ทไม่น้อยที่ใช้วิธีการคุมเกม แก้เกมแบบนี้ บางคนอาจมีเทคนิคส่วนตัวอื่นๆ ซึ่งอาจได้ผลดีกว่า BM ก็ได้ ซึ่งสามารถเอามาคอมเม้นท์ แบ่งปันกันได้นะครับ รวมถึงข้อติชมต่างๆ ตรงไหนดี ไม่ดี BM ยินดีที่จะรับฟังและนำไปปรับปรุงแก้ไขครับ
     หัวข้อที่เป็น Popular Vote ในหัวข้อ "เทคนิคการเล่นท้ายเกม" ทาง BM ก็ได้ทำให้แล้วนะครับ ตามจริง ทำไม่ถึง 5 วันหรอกครับ แต่เนื่องจากไม่มีเวลาในการทำเพราะเดือนธันวาคมเนี่ย กิจกรรมทั้งเดือนเลย แต่ก็ทำเสร็จภายในเวลา 1 เดือนให้แล้วหลังจากปิดโหวตนะครับ
     สุดท้ายก็ขอจบหัวข้อเทคนิคการเล่นท้ายเกมไว้เพียงเท่านี้ ผู้ที่เข้ามาชมหัวข้อนี้เป็นหัวข้อแรก สามารถเข้าชมหัวข้ออื่นๆได้ทางเมนูด้านข้างนะครับ เรายังมีอีกหลายหัวข้อให้ได้รับชม สามารถติชม คอมเม้นท์ไว้หากมีความผิดพลาดประการใดก็ขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วย เพราะรีบทำพอสมควร